สุรินทร์-กระสอบข้าวร้อน..ชาวสุรินทร์โวยหมอวรงค์ เรียกร้องออกมาขอโทษที่นำกระสอบข้าวเข้าไปอภิปรายในสภาเมื่อปี 56 ทำให้ข้าวหอมมะลิสุรินทร์และชาวสุรินทร์เสียหาย ถูกเข้าใจผิดมาตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี..บุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสื่อต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์
สุรินทร์-วันที่ 18 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ได้มีชาวบ้านจาก 3 ตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ ประกอบด้วยตำบลสำโรง , ตาอ็อง และตำบลราม จำนวน 70 คน ได้เดินถือป้ายเรียกร้องระบุข้อความ อะทิ หมอวรงค์จะออกมาขอโทษตอนไหน , ทำไมต้องทำลายชื่อเสียงข้าวหอมมะลิสุรินทร์ , ทำไมต้องทำร้ายชาวนาสุรินทร์ ,ไปเอากระสอบข้าวมาจากไหน เป็นต้น เพื่อยื่นหนังสื่อต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เรียกร้องให้หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ออกมารับผิดชอบและขอโทษชาวสุรินทร์ จากการที่นำกระสอบข้าวเข้าอภิปรายในสภา เมื่อปี 56 ส่งผลทำให้ถูกมองว่าข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ด้อยคุณภาพ โดยมีนายอานากร พระใหม่งาม อายุ 37 ปี ชาวตำบลสำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นตัวแทนชาวนาจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้ยื่นหนังสือ โดยมีนายวีระชัย ประเสริฐโส รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รับหนังสือข้อเรียกร้อง พร้อมรับปากจะส่งหนังสือต่อให้กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นายอานากร พระใหม่งาม ตัวแทนชาวนาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆที่ได้เปรียบเทียบแล้วว่าข้าวกระสอบนั้นไม่ใช่กระสอบข้าวของคลังจังหวัดสุรินทร์ มายื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเรียกร้องให้หมอวรงค์ออกมาขอโทษชาวสุรินทร์ และที่ชาวบ้านพากันมาวันนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้กับชาวจังหวัดสุรินทร์โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ซึ่งที่ผ่านมาเราเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าข้าวของเราเป็นข้าวที่ไม่ได้คุณภาพ แต่ที่จริงแล้วข้าวที่เขานำไปอภิปรายในสภาฯมันไม่ได้มาจากคลังจริงๆ เราก็เลยออกมาเรียกให้เขาออกมาขอโทษชาวนาสุรินทร์และก็ให้ออกมาชี้แจ้งว่าข้าวที่เอาไปอภิปรายในสภานั้นเอามาจากไหน เราจะได้สบายใจว่าข้าวของเราไม่ใช่ข้าวที่ไม่ได้คุณภาพ ข้าวของเรามีคุณภาพจริงๆ ที่ผ่านมาชาวบ้านเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าข้าวนั้นได้มาจากคลังจริง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วข้าวของคลังสุรินทร์ยังอยู่ครบไม่มีหาย ที่เราทราบก็เพราะว่ามีภาพที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ และสำนวนของตำรวจตรวจสอบแล้วว่ากระสอบข้าวที่นำไปสภาไม่ใช่ของคลังสุรินทร์ ข้าวในคลังสุรินทร์ยังอยู่ครบไม่ได้หายไปไหน ก็เลยเป็นที่มาของการเรียกร้องในครั้งนี้
ในเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามกับนางสาวทักษิณา ทับครบุรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโรงสี ส.ชัยเจริญ และเป็นทนายความที่ยื่นฟ้องหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม เกี่ยวกับคดีคอม(ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล)และจะมีการไต่สวนมูลฟ้องคดีในวันที่ 9 ธันวาคม 67 นี้ โดยนางสาวทักษิณา กล่าวว่า เรื่องกระสอบข้าวที่หมอวรงค์เอาไปอภิปราย น่าจะเกิดจากการที่เมื่อวันที่ 5 พ.ย.67 เราได้มีการไต่สวนมูลฟ้องคดี แล้วประเด็นนี้เราได้ฟ้องเขาไปด้วย และสื่อมวลชนก็ได้นำเสนอข่าวออกไป ชาวบ้านที่เขาติดตามก็อาจจะได้ข้อมูลตรงนี้มา ว่าข้าวที่หมอวรงค์เอาไปอภิปรายเมื่อปี 56 ไม่ใช่ข้าวของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในรายละเอียดหมอใส่รายละเอียดไปว่าเป็นข้าวหอมมะลิของจังหวัดสุรินทร์ ได้มาจากคลังของรัฐบาลที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทำให้คนสุรินทร์เสียหายชื่อเสียงของข้าวหอมมะลิสุรินทร์เสียหาย เพราะว่าในการอภิปรายหมอได้มีการฉ่ำข้าวออกจากกระสอบแล้วสีของข้าวมันเป็นสีเหลืองมันก็ดูไม่ดี ทำให้คนมองว่าคนสุรินทร์เอาข้าวคุณภาพแบบนี้หรือมาเข้าโกดังของรัฐ โครงการข้าวที่รับจำนำข้าวตอนนั้นเอาข้าวแบบนี้เอาเข้าไปที่คลังใช่ไหม ซึ่งมันทำให้คนอื่นคิดว่าถ้าในกระสอบนั้นเป็นข้าวในคลังรัฐบาลจริงๆนี่ มันเป็นการทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วพนักงานสอบสวนก็ได้มีการตรวจสอบแล้วว่าข้าวในโกดังไม่ได้หายไป แล้วข้าวกระสอบนั้น กระสอบก็ไม่ใช่กระสอบของคลังจังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านเขาก็อยากให้หมอออกมาบอกว่าไปเอาข้าวกระสอบนั้นมาจากไหน ทำไมต้องออกมาใส่ร้ายข้าวหอมมะลิสุรินทร์ เพราะเขาเสียหายมาเป็น 10 ปีแล้ว
เท่าที่ดูสรุปสำนวนจากพนักงานสอบสวน ข้าวไม่ได้หายไปจากคลังของจังหวัดสุรินทร์เลย ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าข้าวกระสอบนั้นหมอเอามาจากไหน คนที่นำมามอบให้หมอวรงค์มีจุดประสงค์อะไร ซึ่งจริงๆแล้วตอนนั้นคุณหมอเป็น ส.ส.ก่อนที่จะนำพยานหลักฐานใดๆเข้าไปอภิปรายในสภาฯควรที่จะตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่ามันมีความเป็นจริงแค่ไหน แล้วการอภิปรายมันไปพาดพิงถึงบุคคลภายนอกทำให้เขาได้รับความเสียหาย และตอนนี้เราเชื่อว่าหมอก็น่าจะทราบผลของคดีแล้วตอนนี้ แล้วก็ทราบดีแล้วว่าการที่จะนำวัตถุพยานต่างๆเข้าไปในสภา ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบในสิ่งนั้นด้วย ซึ่งหากหมอทราบแล้วว่าข้าวกระสอบนั้นมันไม่ใช่ข้าวของจังหวัดสุรินทร์ ผ่านมา 10 ปีแล้วทำไมคุณหมอไม่ออกมาแถลงชี้แจ้งแก้ไขให้มันถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันคลิปนี้จะเป็นคลิปที่เป็นไวรัลอยู่ในโซเชียลทุกครั้งที่มีการรับจำนำข้าว หลายๆคนก็ต้องเชื่อว่าข้าวกระสอบนั้นเป็นข้าวหอมมะลิที่มาจากจังหวัดสุรินทร์จริงๆ ซึ่งคนสุรินทร์ก็เสียหาย ตรงนี้ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ว่าทำไมชาวบ้านถึงต้องออกมาเรียกร้อง
ส่วนกระสอบข้าวที่เอาไปอภิปรายนั้นตอนนี้ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนเพราะมันเป็นคดีตั้งแต่ปี 56 แต่พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนออกมาแล้ว ซึ่งในสำนวนของพนักงานสอบสวน มีเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คลัง มีเจ้าของโกดังสินค้า และน่าจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ไปช่วยกันตรวจสอบในคลังที่เกี่ยวข้องว่ามีข้าวหายไปไหม ซึ่งในสำนวนมันมีความชัดเจนว่าตัวหนังสื่อที่สกรีนบนกระสอบมันคนละขนาดกันกับตัวหนังสือที่สกรีนบนกระสอบของคลังรัฐบาล ลักษณะก็คือว่ามันมีการทำกระสอบปลอมขึ้นมา คราวนี้ก็ต้องกลับไปถามหมอว่าหมอตรวจสอบอย่างไร ได้กระสอบนี้มาจากไหน
คือในเรื่องที่ฟ้องหมอวรงค์คือหมอวรงค์ได้มีการโพสต์มีการแชร์คลิปของหมอเองที่ไปออกรายการทีวีแล้วมีการพาดพิงมาถึงโรงสี ในส่วนที่เราฟ้องคือเราได้รับความเสียหายเพราะโรงสีเป็นผู้กรอบการที่เป็นคู่สัญญากับรัฐกับคลังสินค้าแล้วยังเป็นคนที่ประมูลข้าวรายแรกของคลังกิตติชัยที่สุรินทร์ด้วยตัวข้าว 10 ปี ซึ่งหมอได้โพสต์แล้วนำรูปภาพของคุณโรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ซึ่งเป็นพ่อของคุณชัยโรจน์ และเป็นเจ้าของโรงสีคู่สัญญาของรัฐลงไปในสื่อ แล้วในบางคำพูดคุณหมอพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เราให้ไป แล้วมันทำให้สังคมมองว่าเราเป็นไม่ดี คือเราดูแล้วเราเสียหายเราถูกพาดพิง ซึ่งเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหมอ หมอไม่ควรที่จะนำเราเข้ายุ่งตรงนั้น ดังนั้นเรามองว่าเราถูกทำให้เสียหายเราก็ต้องรักษาสิทธิของเราเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็มีการนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ครั้งหน้าในวันที่ 9 ธันวาคม 67 นี้ ก็หวังว่าหลังจากที่ชาวบ้านเขาออกมาเรียกร้องให้คุณหมอออกมารับผิดชอบในสิ่งที่คุณหมอทำไปแล้ว ก็หวังว่าก่อนที่จะไต่สวนครั้งหน้าคุณหมอควรที่จะออกมาขอโทษชาวบ้าน ควรจะออกมารับผิดชอบในสิ่งที่คุณหมอทำด้วย ทนายกล่าว
Share this content: