มันเกิดขึ้นแล้ว! ข้าวไทยแพ้เวียดนามเต็มตัว
เวียดนามผงาดขึ้นแท่นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก แซงหน้าประเทศไทยแบบไร้ข้อโต้แย้ง ทั้งที่สัญญาณเตือนดังมาตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่รัฐบาลไทยกลับเพิกเฉย ไม่เร่งปฏิรูปอุตสาหกรรมข้าว ปล่อยให้ข้อจำกัดด้านกฎหมาย การวิจัยพัฒนา และระบบสนับสนุนเกษตรกรจมปลักอยู่กับที่ จนวันนี้ไทยกลายเป็นเพียง “อดีตเจ้าบัลลังก์”
ความได้เปรียบของเวียดนาม vs ความถดถอยของไทย
ในขณะที่เวียดนามเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวอย่างเต็มสูบ ทั้งการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวให้หลากหลาย ลดต้นทุนการผลิต กระจายความเสี่ยงด้านราคา และบุกตลาดใหม่ๆ ไทยกลับยังวนเวียนอยู่ในวงจรเดิม ไม่สามารถยกระดับขีดความสามารถแข่งขันได้

ผลลัพธ์ชัดเจนในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยส่งออกข้าวเพียง 3.73 ล้านตัน ลดลงถึง 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าส่งออกก็ร่วงหนัก ลดลง 36.4% สวนทางกับเวียดนามที่ขยายตัวต่อเนื่อง
สาเหตุแห่งความพ่ายแพ้
- การวิจัยและพัฒนาล้าหลัง – เวียดนามลงทุนพัฒนาสายพันธุ์ข้าวคุณภาพสูง ตอบโจทย์ตลาดโลก ในขณะที่ไทยยังติดกับดักกฎหมายและระบบราชการที่ฉุดรั้งนวัตกรรม
- ต้นทุนการผลิตสูง – เกษตรกรไทยเผชิญปัญหาราคาปุ๋ย ค่าน้ำมัน และค่าขนส่งที่พุ่งสูง ขณะที่เวียดนามสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า
- ขาดยุทธศาสตร์ระยะยาว – รัฐบาลไทยยังขาดแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมข้าวอย่างเป็นระบบ ในขณะที่คู่แข่งปรับตัวรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
ไม่ใช่แค่การสูญเสียอันดับ แต่คือสัญญาณวิกฤตความสามารถแข่งขัน
การที่ไทยถูกเวียดนามแซงหน้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนถึง ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจภาคเกษตรของรัฐบาล อินเดียยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ส่วนเวียดนามพุ่งแซงไทยขึ้นอันดับ 2 ขณะที่ไทยกลายเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม Top 5 ที่ตัวเลขส่งออกดิ่งหนักที่สุด
ข้าวไทยที่เคยเป็นสัญลักษณ์ความภาคภูมิใจ กำลังกลายเป็น “สินค้าวิกฤติ” ที่สะท้อนให้เห็นถึง ความอ่อนแอเชิงนโยบาย และการขาดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

ถึงเวลาปฏิรูป ก่อนสายเกินไป
รัฐบาลต้องหยุดแก้ตัวด้วยคำว่า “สถานการณ์โลก” หรือ “ราคาตลาดผันผวน” และหันมาสร้างยุทธศาสตร์จริงจัง ตั้งแต่การสนับสนุนนวัตกรรมข้าว การลดต้นทุนการผลิต ไปจนถึงการเจาะตลาดใหม่ๆ ก่อนที่คำว่า “ครัวของโลก” จะเหลือเพียงอดีตที่เลือนรางในหน้าประวัติศาสตร์
เพราะวันนี้… เราพ่ายแพ้แล้ว และหากไม่เร่งเปลี่ยนแปลง ความเสียหายอาจไม่หยุดแค่การส่งออกข้าว แต่จะลุกลามสู่ความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ!
——-
🌾✨ เปิดฤดูข้าวหอมมะลิใหม่ หอม นุ่ม กลิ่นธรรมชาติ ปลูกเอง สีเอง ปลอดภัยทุกเม็ด! ✨🌾
🌾 ข้าวหอมมะลิแท้จากเขวาสินรินทร์ สุรินทร์ 🌾
✅ ปลูกเองด้วยมือเกษตรกร
✅ ตากแดดธรรมชาติ 100%
✅ สีเอง ไม่ผ่านสารกันมอด ปลอดภัยทุกขั้นตอน!
✅ คัดเศษหญ้าแล้ว พร้อมหุงได้ทันที
🍚 หอมฟุ้ง นุ่มหนึบ หุงขึ้นหม้อ รสชาติข้าวใหม่แท้ๆ ที่หาทานยาก!📦 โปรโมชั่นส่งฟรีทั่วประเทศ
- 3 กิโล 190 บาท
- 5 กิโล 290 บาท
- 10 กิโล 530 บาท
- 20 กิโล 999 บาท (คุ้มสุด!)
🎁 เหมาะมากๆ เป็นของขวัญปีใหม่ ของชำร่วยงานบุญ ฝากญาติผู้ใหญ่ ของดีมีคุณภาพ จากเกษตรกรขายเอง!
📩 สั่งซื้อวันนี้! ทัก inbox มาได้เลยค่ะ
ข้าวหอมมะลิสุรินทร์แท้100% #ข้าวใหม่หอมมะลิ #ของดีเมืองสุรินทร์
🌾 อุดหนุนข้าวไทยเกษตรกรไทยด้วยนะคะ 🌾
Share this content: