หลังเจรจาหยุดยิง… คำถามที่ประชาชนต้องการคำตอบ
การเจรจาหยุดยิงระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ผ่านมาในมาเลเซีย ดูเหมือนจะยุติความขัดแย้งทางทหารชั่วคราว แต่กลับทิ้งคำถามมากมายในใจประชาชนไทย ที่ยังรอคอยคำตอบจากรัฐบาล
ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ
ตลอด 6 วันของการปะทะ กัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตพลเรือน ขณะที่ไทยตอบโต้อย่างจำกัดเฉพาะพื้นที่ทางทหารเท่านั้น แม้กองทัพไทยจะมีความได้เปรียบทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และกำลังรบ สามารถยึดพื้นที่คืนได้ทั้งหมด แต่รัฐบาลกลับต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 160,000 คน ให้ทิ้งบ้านเรือนหนีตาย






ที่น่าสังเกตคือ นานาชาติต่างประณามการกระทำของกัมพูชา และให้การสนับสนุนไทย แต่เมื่อกัมพูชาร้องขอหยุดยิง พร้อมสัญญาว่าจะไม่รุกรานอีก กลับไม่มีการสร้างเงื่อนไขใดๆ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของไทยในระยะยาว
คำถามที่ไร้คำตอบจากรัฐบาล
ประชาชนกำลังตั้งคำถามกับรัฐบาลหลายประการ:
- “สิ่งที่เราเสียไป… มันคุ้มค่าหรือไม่?” ทั้งชีวิตประชาชน บ้านเรือน ที่ต้องสูญเสียเพราะการยิงของกัมพูชา
- “การยอมหยุดยิงแบบนี้ เท่ากับกัมพูชาบรรลุเป้าหมายหรือไม่?” เพราะดูเหมือนไทยไม่ได้ได้อะไรกลับมา แถมยังเสียโอกาสในการสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่ง
- “ทำไมรัฐบาลไม่เรียกร้องเงื่อนไขใดๆ?” ไม่ว่าจะเป็นการปลดอาวุธ การยืนยันสิทธิในดินแดน หรือแม้แต่การประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
นี่ไม่ใช่แค่การหยุดยิง… แต่เป็นการเสียท่า

ในสายตาประชาชน การเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่ชัยชนะทางการทูต แต่กลับเป็นการยอมจำนนทางการเมืองที่อาจส่งผลร้ายแรงในอนาคต เพราะไทยมีข้อได้เปรียบทุกด้าน แต่กลับไม่ใช้โอกาสนี้สร้างเงื่อนไขให้ชาติได้ประโยชน์
อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลควร:
✅ สร้างเงื่อนไขให้ไทยได้เปรียบในการเจรจา
✅ เรียกร้องให้กัมพูชาปลดอาวุธในพื้นที่เสี่ยง
✅ ยืนยันสิทธิ์ในดินแดนของไทยอย่างชัดเจน
✅ แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าว เพื่อให้โลกเห็นว่าไทย “ไม่ยอมแพ้”
ทหาร… ความหวังสุดท้ายของประชาชน?
เมื่อรัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ประชาชนจึงเหลือเพียงความหวังสุดท้ายอยู่ที่ “กองทัพ” ซึ่งยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของชาติมาตลอด
ในวิกฤตเช่นนี้ ประชาชนต้องการมากกว่าคำพูดสวยหรู แต่ต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาด เพื่อให้มั่นใจว่า “ไทยจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำอีกครั้ง”

Share this content: