สามโรคเสี่ยงรุมเร้า! วัยรุ่นไทยต้องระวัง “ยาบ้า-บุหรี่ไฟฟ้า-น้ำกระท่อม”
ภาพวัยรุ่นที่เปี่ยมสุขภาพและพลังงานอาจถูกบดบังด้วยภัยเงียบ 3 ประการที่กำลังคุกคามสุขภาพอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นไทยที่เข้าถึงสารเสพติดและพฤติกรรมเสี่ยงได้ง่ายขึ้น โรคภัยเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลระยะสั้น แต่ทำลายอนาคตได้อย่างถาวร
1. โรคจิตเวชจาก “ยาบ้า” : ทำลายสมอง สร้างความหวาดระแวง
- กลไกทำลาย: ยาบ้า (แอมเฟตามีน) กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอย่างรุนแรงและผิดธรรมชาติ ทำให้สมองหลั่งสารโดปามีนมากเกินไป สมองทำงานหนักและถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง
- อาการทางจิตเวช:
- โรคจิตจากสารเสพติด (Substance-Induced Psychotic Disorder): หูแว่ว ประสาทหลอน เห็นภาพหลอน หวาดระแวง คิดว่าถูกปองร้ายหรือติดตาม ควบคุมตนเองไม่ได้ อาจนำไปสู่พฤติกรรมรุนแรง ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลรุนแรง: เมื่อฤทธิ์ยาหมด ผู้ใช้จะตกอยู่ในภาวะอารมณ์ตกต่ำอย่างรุนแรง หมดแรง หมดหวัง และเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
- สมองเสื่อมถอย: ความจำแย่ลง สมาธิสั้น ตัดสินใจผิดพลาด ความสามารถในการเรียนรู้และทำงานลดลงอย่างถาวร
- วัยรุ่นเสี่ยงสูง: สมองวัยรุ่นยังพัฒนาอยู่ เสี่ยงต่อการถูกทำลายมากกว่าผู้ใหญ่ และอาจนำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมถาวร
2. มะเร็งปอดจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” : อันตรายแฝงที่มองไม่เห็น
- มายาคติ “ปลอดภัยกว่า”: วัยรุ่นจำนวนมากเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้า “ปลอดภัย” หรือ “อันตรายน้อยกว่า” บุหรี่ธรรมดา นี่คือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมหันต์
- สารพิษร้ายแฝง:
- นิโคติน: สารเสพติดร้ายแรง ทำลายสมองวัยรุ่น เพิ่มความเสี่ยงติดสารเสพติดอื่น
- สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs): เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ อะซีตัลดีไฮด์ (สารก่อมะเร็ง)
- สารเคมีแต่งกลิ่นรส (เช่น ไดอะซิติล): ทำลายปอดถาวร (โรคปอดอุดกั้นถุงลมโป่งพอง)
- อนุภาคขนาดเล็กจิ๋ว (PM2.5): แทรกซึมลึกเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด
- มะเร็งปอดไม่ใช่เรื่องไกลตัว: แม้ข้อมูลระยะยาวอาจยังน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารก่อมะเร็งหลายชนิด การสูดเอาสารเคมีเหล่านี้เข้าปอดวันละหลายครั้ง เป็นเวลานาน ย่อมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังเสี่ยงโรคปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลัน (EVALI)

3. ไตวายเรื้อรังจาก “น้ำกระท่อม” : เมามันจนไตพัง
- เทรนด์อันตราย: การบริโภคน้ำกระท่อม (ใบกระท่อมต้มเคี่ยวเข้มข้น) โดยเฉพาะแบบผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังหรือโซดา กำลังเป็นเทรนด์ร้ายในกลุ่มวัยรุ่น
- สารพิษทำลายไต:
- มิทราไจนีน (Mitragynine): สารออกฤทธิ์หลักในกระท่อม แม้ไม่ถูกกฎหมายทั้งหมด แต่การบริโภคปริมาณมากๆ เป็นประจำทำให้ไตทำงานหนัก
- สารกลุ่ม 7-OH-mitragynine: มีฤทธิ์รุนแรงกว่า และอาจเป็นพิษต่อไตโดยตรง
- การผสมกับสารอื่น: โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีนสูง ทำให้ร่างกายขาดน้ำรุนแรง ไตทำงานหนักขึ้นหลายเท่า
- เส้นทางสู่ไตวาย:
- ไตทำงานหนักเกิน: ต้องกรองสารพิษปริมาณมากเป็นประจำ
- ภาวะขาดน้ำรุนแรง: จากฤทธิ์ของกระท่อมและคาเฟอีน ทำให้ปัสสาวะบ่อย เกลือแร่ในร่างกายเสียสมดุล
- ไตอักเสบ: การสัมผัสสารพิษต่อเนื่องทำลายเนื้อไต
- ไตเสื่อมถอยเรื้อรัง: นำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกไตหรือปลูกถ่ายไตในวัยยังไม่ทันได้สร้างอนาคต

ป้องกันก่อนสาย : ทางออกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ
- วัยรุ่น: ต้องตระหนักถึงพิษภัยที่ร้ายแรงและถาวรของสารเสพติดทุกชนิด ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาหรือเพื่อนชักชวน เลือกกิจกรรมสร้างสรรค์แทนการทดลองของมึนเมา ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ
- ครอบครัว: สร้างความใกล้ชิด เปิดใจพูดคุยเรื่องสารเสพติดโดยไม่ตัดสิน สังเกตพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงของลูก สอนให้รู้จักปฏิเสธ
- โรงเรียน: ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายของสารเสพติดรุ่นใหม่ๆ (บุหรี่ไฟฟ้า น้ำกระท่อมเข้มข้น) จัดกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ
- หน่วยงานรัฐ: บังคับใช้กฎหมายควบคุมการขายบุหรี่ไฟฟ้าและกระท่อมให้เข้มงวด โดยเฉพาะรอบสถานศึกษา ควบคุมโฆษณาออนไลน์ที่เข้าถึงวัยรุ่นง่าย เพิ่มการรณรงค์สร้างความตระหนักถึงผลกระทบระยะยาวที่รุนแรงของสารเหล่านี้ต่อสุขภาพจิต มะเร็ง และไต
อย่าปล่อยให้ความคึกคะนองหรือความไม่รู้ ทำลายอนาคตที่สดใส! สุขภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้ชีวิตและสร้างฝัน สารเสพติดไม่ว่าชนิดใดก็ตาม ไม่เคยนำมาซึ่งสิ่งดีงาม มีแต่ทำลายสมอง ทำลายปอด ทำลายไต และทำลายโอกาสในชีวิตอย่างไม่มีวันหวนคืน การป้องกันและหลีกเลี่ยงตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับอนาคตของวัยรุ่นทุกคน
Share this content: