“คนกัมพูชาไม่ใช่คนขแมร์ ค๊า…” เปิดประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่ถูกเข้าใจผิด

“คนกัมพูชาไม่ใช่คนขแมร์ ค๊า…” เปิดประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่ถูกเข้าใจผิด

“คนกัมพูชาไม่ใช่คนขแมร์ ค๊า…”
เปิดประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่ถูกเข้าใจผิด

เมื่อหญิงสาวชาวกัมพูชาคนหนึ่งกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “ฉันไม่ใช่คนเขมร” หลังถูกคนไทยเรียกผิด นั่นไม่ใช่แค่การแก้ตัวด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่สะท้อนความซับซ้อนของอัตลักษณ์ที่ถูกบดบังด้วยมายาคติทางประวัติศาสตร์มานาน

1. “ขอม” ≠ “เขมร”: ความสับสนที่ถูกสร้างขึ้น

คำว่า “ขอม” ในเอกสารไทยโบราณหมายถึงอารยธรรมร่วมที่แผ่ขยายจากลุ่มน้ำโขงถึงที่ราบสูงโคราช รับอิทธิพลอินเดียผ่านศิลปะปัลลวะและศาสนาฮินดู-พุทธ ไม่ได้ระบุเฉพาะชาติพันธุ์เขมร ดังเห็นได้จากจารึกและงานศิลปะ “ขอม” ที่พบทั้งในไทย ลาว และกัมพูชา

ขณะที่ “เขมร” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งที่กลายเป็นประชากรหลักของกัมพูชาสมัยใหม่ และใช้ชื่อนี้เป็นภาษาราชการ แต่การอ้างว่าเขมรคือทายาทโดยตรงของ “ขอม” เป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์อย่าง David Chandler ชี้ว่า “คลาดเคลื่อน” เพราะจักรวรรดิขอมโบราณประกอบด้วยหลายชนชาติ เช่น มอญ ลาว จาม และชาวพื้นเมืองอื่นๆ

2. จากอังกอร์สู่กัมพูชา: รัฐชาติที่เกิดจากเส้นแบ่งอาณานิคม

ดินแดนกัมพูชาปัจจุบันเป็นผลพวงจากการวาดแผนที่โดย ฝรั่งเศส ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งรวมกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อ “Cambodia” โดยเฉพาะชาวจาม (เชื้อสายมลายู-ชวา) เวียดนาม จีน และชาวเขาบางกลุ่ม

เบน เคียร์แนน (Ben Kiernan) ระบุในหนังสือ The Pol Pot Regime ว่า แม้รัฐกัมพูชาสมัยใหม่จะส่งเสริมอัตลักษณ์ “เขมร” แต่ประชากรจริงๆ มีความหลากหลายทางพันธุกรรมและวัฒนธรรมจากกลุ่มที่ถูกกลืนกลายตลอดศตวรรษ

3. ภาษา: หลักฐานที่ถูกลืม

ภาษาเขมรสมัยใหม่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของภาษาที่เคยใช้ในจักรวรรดิขอม นักภาษาศาสตร์ Franklin Huffman พิสูจน์ว่า จารึกอังกอร์ส่วนใหญ่เขียนด้วยภาษาสันสกฤตและปัลลวะ ซึ่งเป็นภาษาของชนชั้นปกครอง ไม่ใช่ภาษาพื้นเมืองดั้งเดิม

ปัจจุบัน กัมพูชายังมีภาษาชนกลุ่มน้อย เช่น ปากะญอ (ชาวเขากัมพูชา) และ ภาษาจาม ที่สืบทอดจากอาณาจักรจามปาโบราณ แสดงว่า “ความเป็นเขมร” ไม่ได้ครอบคลุมทุกคนในประเทศ

4. แล้วคนกัมพูชาคือใคร?

คำตอบคือ “ผู้อยู่ภายใต้รัฐชาติกัมพูชา” ซึ่งประกอบด้วย:

  • กลุ่มเขมร (ประมาณ 80%)
  • กลุ่มจาม (มุสลิมเชื้อสายมลายู-ชวา)
  • ชาวเวียดนามและจีนอพยพ
  • ชนเผ่าพื้นเมือง เช่น กุย ปอร์

การเหมารวมว่า “กัมพูชา = เขมร = ขอม” จึงเป็นการตัดตอนประวัติศาสตร์ และ ลบความหลากหลาย ที่มีอยู่จริง

บทสรุป: ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

เพราะการเข้าใจผิดนี้นำไปสู่:

  • ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม เช่น การโต้แย้งเรื่องปราสาทพระวิหารที่ไทยถูกกล่าวหาว่า “ขโมยของขอม” ทั้งที่ปราสาทนี้คือมรดกร่วมของหลายชาติพันธุ์ในอดีต
  • การกดทับชนกลุ่มน้อย ในกัมพูชาที่ถูกบังคับให้รับอัตลักษณ์ “เขมร”

ดังนั้น ครั้งหน้าถ้าคุณพบคนกัมพูชา ลองถามเขาดูว่า “คุณคือใคร?” เพราะคำตอบอาจไม่ใช่แค่ “ฉันคือเขมร”


อ้างอิง:

  • Chandler, D. A History of Cambodia (2008)
  • Kiernan, B. The Pol Pot Regime (1996)
  • Huffman, F. Cambodian System of Writing (1970)

Share this content:

เกี่ยวกับผู้เขียน

Previous post

ผบช.ภ.3 นำทีมตำรวจภาค 3 เดินหน้าขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเชิงรุก ดูแล 4 จังหวัดชายแดนตะวันออก เน้นกลุ่มเปราะบาง ย้ำ “ไม่มีสถานการณ์ผิดปกติ”

Next post

สามโรคเสี่ยงรุมเร้า! วัยรุ่นไทยต้องระวัง “ยาบ้า-บุหรี่ไฟฟ้า-น้ำกระท่อม”

You May Have Missed