สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ “เขมร”

สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ “เขมร”

กลางขุนเขาพนมดงรักอันขรึมขลัง ในตำบลตาเมียง จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ปราสาทหินโบราณ “ตาเมือนธม” ยืนหยัดท้าทายกาลเวลา มากกว่าความงามทางสถาปัตยกรรม ปราสาทแห่งนี้คือ กุญแจสำคัญไขปริศนาประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตบนผืนหินธรรมชาติ สะท้อนแผนผังเชิงยุทธศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความสำคัญยิ่งในอดีต ไม่เพียงในฐานะศูนย์กลางศาสนา แต่ยังเป็นจุดควบคุมเส้นทางคมนาคมยุทธศาสตร์ระหว่างที่ราบสูงอีสานและชายฝั่งทะเลในภูมิภาคอุษาคเนย์

518337339_30240539142256963_4643470262093902831_n สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ "เขมร"

สิ่งที่ทำให้ตาเมือนธมโดดเด่นและเป็นพยานหลักฐานอันแข็งแกร่งที่สุด ไม่ใช่เพียงซากปรักหักพัง แต่คือ “จารึก” บนแท่งหินทราย จารึกนี้เองที่เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนถึงต้นกำเนิดทางวัฒนธรรมของปราสาทแห่งนี้:

  • ภาษา: ใช้ ภาษาสันสกฤต ภาษาคลาสสิกแห่งคัมภีร์และพิธีกรรมในอนุทวีปอินเดีย
  • อักษร: ใช้อักษร “หลังปัลลวะ” (Post-Pallava) ซึ่งเป็นอักษรที่พัฒนามาจาก อักษรปัลลวะ ของอินเดียใต้ อักษรชนิดนี้แพร่หลายเข้าสู่คาบสมุทรอินโดจีนพร้อมๆ กับคติความเชื่อและศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
  • จุดสำคัญ: ไม่มีร่องรอยใดๆ ของอักษรหรือภาษาที่เรียกว่า “ขอม” หรือ “เขมรโบราณ” ปรากฏอยู่บนจารึกนี้เลย

แม้เนื้อหาบางส่วนจะชำรุด แต่ใจความสำคัญที่ยังอ่านได้ชัดเจนคือ:

“พึงให้ผู้ใดผู้หนึ่งทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทพ ด้วยความภักดีในพระศิวะ…”
“ท่านทั้งหลายพึงถึงพระศิวะ โดยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเทพเจ้า… ตามกรรมที่ได้กระทำแล้ว”

520233885_30240774962233381_3098509323507701455_n-1024x577 สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ "เขมร"

ข้อความนี้เปิดเผยความจริงที่ชัดเจน: ปราสาทตาเมือนธมคือศาสนสถานในลัทธิ “ไศวนิกาย” ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยมี พระศิวะ เป็นเทพเจ้าสูงสุดที่ได้รับการบูชา ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับพุทธศาสนามหายาน ที่รุ่งเรืองในยุคอาณาจักรเจนละหรือจักรวรรดิขอมในเวลาต่อมา ดังนั้น ผู้สร้างและผู้ใช้สอยปราสาทแห่งนี้ในยุคเริ่มแรก ย่อมไม่ใช่กลุ่มชนที่เรียกว่า “เขมร” ในความหมายปัจจุบัน

522643753_1285994779555213_5140950208509782492_n สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ "เขมร"

ความสำคัญยิ่งอยู่ที่ อักษรหลังปัลลวะ การใช้อักษรที่มาจากอินเดียใต้นี้คือ หลักฐานโบราณคดีโดยตรง ที่บ่งชี้ว่าผู้สร้างปราสาทตาเมือนธมมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมโดยตรงกับโลกอินเดียใต้ หรืออย่างน้อยก็รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมผ่านเส้นทางทะเลหรือการติดต่อโดยตรงจากแหล่งกำเนิดในอินเดีย ไม่ใช่รับผ่านหรือมาจากกลุ่มเขมรทางตะวันออก

520286005_2845746868950861_3426623628516284919_n-1024x570 สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ "เขมร"

แม้จะมีวาทกรรมบางฝ่ายพยายามเชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมทั้งหมดในภูมิภาคนี้ให้กลายเป็น “มรดกของเขมร” ด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือการสร้างชาติประวัติศาสตร์ แต่อดีตที่จารึกไว้ในหินกลับเล่าความจริงที่ต่างออกไป:

  • ประวัติศาสตร์ถูกจารึกไว้บนหิน ไม่ใช่ในคำพูดของนักการเมือง
  • ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บน แผ่นดินไทย
  • จารึกด้วย ภาษาสันสกฤต จากอนุทวีปอินเดีย
  • ใช้ อักษรหลังปัลลวะ จากอินเดียใต้
  • กล่าวถึง เทพเจ้าแห่งไศวนิกาย ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่เผยแผ่มาจากอินเดีย
  • ไม่มีข้อความใดในจารึกเอ่ยถึง “ขอม” หรือ “เขมร”
  • ไม่มีหลักฐานโบราณคดีหรือเอกสารร่วมสมัยชิ้นใด ที่พิสูจน์ว่าอาณาจักรเจนละหรือเขมรเคยปกครองพื้นที่นี้อย่างเป็นระบบในช่วงเวลาที่ปราสาทนี้ถูกสร้างและใช้สอยในยุคแรกเริ่ม

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารปะปนกับวาทกรรมบิดเบือน ตาเมือนธมจึงไม่เพียงเป็นโบราณสถาน แต่ยังเป็น “สมรภูมิทางประวัติศาสตร์” ที่ความจริงทางวิชาการต้องถูกปกป้องจากความพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับข้ออ้างทางประวัติศาสตร์ที่ปราศจากหลักฐาน การเข้าใจที่มาของภาษา อักษร และบทบาทของศาสนาอย่างถ่องแท้ คืออาวุธสำคัญ

518340372_30240554098922134_2119003161963451090_n-669x1024 สืบจากอักษร: ปราสาทตาเมือนธม หลักฐานชัดเจนว่าใช้อักษรปัลลวะ ไม่ใช่ "เขมร"

สรุปข้อเท็จจริงทางโบราณคดีที่ไม่อาจปฏิเสธ:

  • สถานที่: ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย
  • อายุการสร้าง: ราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 (คริสต์ศตวรรษที่ 8-9)
  • จารึกหลัก: ภาษาสันสกฤต
  • อักษรจารึก: อักษรหลังปัลลวะ (Post-Pallava Script)
  • ศาสนา/ลัทธิ: ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไศวนิกาย (บูชาพระศิวะ)

หลักฐานจากจารึกที่ตาเมือนธมยืนยันชัดเจนว่า ปราสาทแห่งนี้คือ มรดกอันล้ำค่าของอารยธรรมอินเดียที่หยั่งรากลึกบนแผ่นดินไทย เป็นประจักษ์พยานถึงเครือข่ายทางวัฒนธรรมและการค้าโบราณที่เชื่อมโยงอนุทวีปอินเดียกับดินแดนภายในสุวรรณภูมิโดยตรง ความเป็นมาอันแท้จริงของมันถูกจารึกไว้ด้วยอักษรปัลลวะบนหินทราย มิใช่ด้วยคำอ้างของผู้แอบอ้างในยุคหลัง


อ้างอิงจาก:

Share this content:

เกี่ยวกับผู้เขียน

You May Have Missed