ทหารพรานชุดดำ: บทกวีแห่งนักรบผู้เสียสละ

“วันที่ 18 กรกฎาคม 2521”
แสงแรกแห่งการต่อสู้ฉายลงบนผืนแผ่นดินไทย
ครม.อนุมัติก่อเกิด “โครงการอาสาสมัครทหารพราน”
ทหารที่มาจากประชาชน เพื่อประชาชน
เลือดเนื้อและหัวใจรวมเป็นเกราะกำบังชาติ
ปฐมบทแห่งนักรบผู้ไม่รู้จักคำว่ายยอมแพ้
“คำสั่งจากเบื้องบนคือแสงนำทาง”
สำนักนายกรัฐมนตรีออกคำสั่งที่ 60/23 และ 65/25
เป็นลายลักษณ์แห่งภารกิจ—
ต่อสู้เพื่อขจัดเงามืดที่คุกคามความสงบ
ทหารพรานยืนหยัดด้วยหลักธรรมและอาวุธ
ไม่ใช่แค่รบกับศัตรู…แต่รบเพื่อปกป้องวิถีชีวิต
“วันของเรา”
รอยยิ้มของพวกเขาส่องแสงตั้งแต่เช้ายันค่ำ
แม้พระอาทิตย์ลาลับ เหลือเพียงความมืดและเสียงลมพัดผ่าน
แต่รอยยิ้มนั้นไม่เคยจางหาย
เพราะนี่คือคำสัญญาของผู้สวมชุดดำ—
ยิ้มได้แม้ในสนามรบ ยิ้มได้แม้เจ็บปวด
“บทกวีของนักรบขาขาด”
ชายคนหนึ่งร่ายคำคล้ายบทเพลงชัย—
“ข้าคือนักรบผู้เก่งกล้า
ข้าคืออาสาผู้ยิ่งใหญ่
สู้ศึกปกป้องพี่น้องไทย
เหลือขาฝากไว้ที่ชายแดน…”
ไม่รู้จะขำหรือเศร้า…รู้เพียงว่านี่คือจิตวิญญาณที่ไร้ซึ่งการยอมจำนน
“เพลงของทหารพราน”
ในป่าทึบที่แสงตะวันส่องไม่ถึง มีเสียงเพลงขับขาน—
“สีดำนั้นคือผู้เสียสละ สีอมตะเครื่องแบบทหารพราน
ไม่สวยหรูแต่เต็มไปด้วยน้ำใจ…
ไม่เคยทะนง รู้ผิดรู้ชอบ มั่นคงในวินัย
โปรดมองให้ลึก—น้ำใจนี้ไม่ดำเหมือนชุดที่ใส่มา…”

ชุดดำอาจดูน่าเกรงขาม
แต่ภายใต้สีนั้นคือหัวใจที่รักชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์
คือเลือดเนื้อที่พร้อมเสียสละเพื่อเพื่อนร่วมแผ่นดิน
“จุดเปลี่ยนของชีวิต”
ปี 2528 ชายคนหนึ่งก้าวเข้าสู่กรมทหารพรานที่ 24
อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้สมัครนับพัน รับเพียง 89 คน
เขาได้ที่ 4—
นั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่…ชีวิตที่หักเหและท้าทายทุกความเจ็บปวด

จากปี 2528 ถึง 2537
สิบปีในชุดดำ สิบปีที่เรียนรู้ความหมายของคำว่า “เสียสละ”
ก่อนจะก้าวออกไปเป็นนักข่าวและนักเขียน
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเหล่าผู้กล้า…
“เพราะทหารพรานไม่ใช่แค่ชุดดำ — แต่คือจิตวิญญาณที่สวมใส่เพื่อชาติ”
– ไชยา วรรณศรี –
Share this content:


