จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

โดย ไชยา วรรณศรี ศิลปินมรดกอีสาน 67 (สาขาวรรณกรรมร่วมสมัย)

หลังจากที่มีคลิปข่าวในกระแสโซเชียล โดยผู้ที่ถูกเรียกว่า หลวงตาซุจส์กระฉ่อนลามทุ่งอย่างกว้าง ด้วยความก้าวร้าว ชิงชัง โกรธแค้น ก่นด่า คนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่ง พาดพิงไปทั้งหมด ว่าไม่ชอบ และ บอกว่า ปราสาทตาเมือนธม เป็นของกัมพูชา อยากให้ทหารเขมร ยิงคนสุรินทร์ให้ตาย ๆ ไปเสียให้หมด นั้น ได้สร้างแรงกระเพื่อมขึ้นมาทันที ประชาชน ชาวสุรินทร์ทั้งจังหวัดพร้อมใจกันวิพากษ์วิจารณ์ด่ากลับ ขู่ไม่ให้เข้ามาสุรินทร์อีก หรือโดนสาปแช่งต่างๆนานา กระทั่ง ญาติพี่น้องของหลวงตาซุจส์ ถึงกับ ทำพิธี ตัดญาติขาดมิตรกันเลยทีเดียว

​เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากชาวสุรินทร์ที่ไม่พอใจแล้ว ประชาชนในประเทศ เมื่อได้ฟังคลิปนี้แล้ว ก็ไม่สบายใจ พลอยเดือดดาลตามไปด้วยในกิจของสงฆ์ที่ออกมาใช้คำรุนแรง ต่อ พื้นที่ ที่ตนเองเคยอาศัยข้าวก้นบาตร และตามมาด้วยคำถามว่า เขาเป็นใคร เป็นพระจริงไหม เป็นพระอยู่ที่ไหน อะไรทำนองนั้น โดยมีสื่อหลายสำนักได้นำเสนอไปบ้างแล้ว ทว่า ก็เป็นเพียงบอกกล่าวว่า เป็นพระนักเทศน์ชื่อดังแห่งอีสานใต้เท่านั้น

511979018_1037275495276070_854074863649677199_n-540x1024 จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

ปฐมกาลหลวงตาซุจส์

คำว่าซุจส์ เป็นคำเรียกขานตลกๆ สนุกสนาน ออกไปทางทะลึ่งตึงตัง หยอกล้อกันในหมู่คนสนิท ช่วงนั้น หลวงตาซุจส์ เป็นพระนักเทศน์ หลายครั้งที่ต้องเทศน์คู่ และพระคู่กันนั้น มักเรียกว่า ตาซุจส์ มาแล้ว หรือ เดี๋ยวพบกับพระซุจส์ นิมนต์พระซุจส์ ประมาณนี้ และ จะเรียกซ้ำๆว่าพระซุจส์ พระซุจส์ เมื่อเห็นผู้มาฟังหัวเราะชอบใจ ซึ่ง หลายครั้งเข้า หลวงตาเห็นว่า คนฟังชอบใจประโยคนี้ จึงใช้เป็นชื่อแทนสรรพนามตัวเองเสียเลย ประชาชน ที่ไปฟังก็จะเรียกตามว่า พระซุส์ หลวงตาซุจส์ จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทั้งจังหวัดสุรินทร์และใกล้เคียง ลามไปถึงต่างประเทศว่า เทศน์เก่ง เทศน์ดี ตลก ขบขัน สนุก แฝงคำสอน นั่นคือเบื้องหน้าของพระรูปนี้

ปฐมกาลนักบวชฝีปากกล้ามาจากไหน….หลวงตาซุจส์

หลวงตาซุจส์ ในวัย 59 ปี อดีตนามว่า นายเพิย บำเพ็ญครบ เป็นชาวบุรีรัมย์ และได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ได้ฉายาว่า พระนรินทร ปสันโน บวชอยู่ในพื้นที่อำเภอประโคนชัย เป็นพระชอบปาริวาสกรรม และ ค่อนข้างเชี่ยวชาญด้านการบรรยาย หลังจากที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ 

  • รักษาการเจ้าอาวาส วัดศรีสกลวราราม อำเภอกาบเชิง 
  • เป็นผู้ช่วยงานบวชพระธรรมทูต ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ – วัดโตงน้อยอำเภอสังขะ
  • รองเจ้าอาวาส ทักษิณวารีศิริสุข อำเภอลำดวน
  • รักษาการเจ้าอาวาสวัดพนมศิรารามเขาสวาย อำเภอเมืองสุรินทร์

โดยการศึกษานั้น พระนรินทร จบ กศน.ระดับ 4 และเรียนต่อ กศน.จบระดับ 5 จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ …ปริญญาโทสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่ง ไม่ว่าจะตำแหน่งทางพระ การศึกษาหรือยศตำแหน่งใด ล้วน โชคดีที่มีพระพี่พระน้องรูปอื่นๆ คอยช่วยเหลือสนับสนุนให้อย่างดี พูดง่ายๆก็คืออยากได้อะไรทำอะไร มีคนจัดการให้ทั้งสิ้น ครอบคลุมทุกด้านทุกมิติ….

509035697_1034555815548038_4972544488312847496_n-887x1024 จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

บนเส้นทางอันขรุขระ ลาภ ยศ ที่ไม่จีรัง…

ด้วยความเป็นคนที่เอาแต่ใจ สันโดษ ฝีปากกล้า อุปนิสัยที่ชอบเอาแต่ใจตัว ไม่ได้ดั่งใจชอบเอะอะโวยวาย เช่น เมื่อถูกนิมนต์ไปเทศน์ หากแกะซองแล้วปัจจัยน้อยก็จะดุด่าว่าเจ้าภาพ เครื่องเสียงใช้ไม่ได้หรือไมค์ไม่ดีก็ขว้างปาไมค์ เป็นต้น ด้วยความทะยานอยากในอำนาจ ตำแหน่ง และ เชื่อมั่นในชื่อเสียงนักเทศน์ จึงอยากจะขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสักที ทว่า พระสงฆ์ ชาวบ้าน หรือ คนทั่วไปที่รู้จึงกระทำการให้ไม่ได้ มีการขัดขวางไม่ให้ดำรงตำแหนง ด้วยเหตุผลดังกล่าว คือ เข้ากับใครไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคณะสงฆ์ ประชาชน ข้าราชการ และการโยกย้ายบ่อย ชอบเดินทาง ไม่ค่อยอยู่วัด ช่วงหลังๆ จึงมักไปเทศน์ยังต่างประเทศ โดยเฉพาะ ประเทศกัมพูชา ไปบ่อยจนเสมือนบ้านอีกหลังกระทั่งได้รับสัญชาติเขมร และมีพลาสปอร์ตของกัมพูชา เดินทางเข้าออกอยู่เป็นนิจ

​หลังจากมีความโกรธแค้นหมู่พระและญาติโยมชาวสุรินทร์ จึงกลับไปอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ พื้นที่ตำบลป่าชัน อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่ง ยังไม่สามารถที่จะเข้ากับชุมชนหรือพระรูปอื่นๆได้ ด้วยปัญหาซ้ำๆ ในที่สุด หลวงตาซุจส์จึงอพยพตัวเองข้ามไปอยู่ยังกัมพูชา เพราะเคยไปเทศน์ที่นั่นหลายครั้งเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของเขมรที่นั่น

502569374_1034555778881375_489034069867525094_n จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

​อันที่จริง ความลับของหลวงตาซุจส์ เขาหาได้โกรธคนสุรินทร์ทั้งหมดดอก เพียงแต่ว่า คนที่ไม่ทำตามเขา ไม่กระทำให้เขาได้เป็นเจ้าอาวาสสมหวัง หรือ ยศ ตำแหน่งต่างๆ ไม่กี่คน และ กี่รูป ทว่า เขา ฟาดงวงฟาดงาเอากับคนหรือเหมากับคนสุรินทร์ทั้งหมด ด้วยความโกรธ อาฆาต นั่นเอง

เส้นทางบวชเรียน

จากพระนรินทร ปสันโน เป็นพระปลัดนรินทร ปสันโน ถึง พระมหานรินทร ปสันโน พระนรินทร เป็นพระชอบใฝ่รู้ ชอบเรียน ทว่า เมื่อไปอยู่วัดไหน เป็นที่แปลกว่า อยู่ได้ไม่นาน ทั้งที่มีความสามารถในการเทศน์ให้คนเชื่อได้ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะไม่เอา ไม่ชอบ ญาติโยมที่ใกล้ชิดหรือจักจะรู้อุปนิสัยดี หรือ เข้ากับผู้คนยาก ไม่ค่อยถูกกับใคร ไปอยู่ที่ไหนมักฉายเดี่ยว ทว่า มีงานเทศน์อยู่เรื่อยๆ ทั้ง โรงพยาบาล โรงเรียน หน่วยงานรัฐ หรือ สถานที่ต่างๆ ชุมชน งานมงคลทั่วไป ขอเพียง ค่านิมนต์สูงหน่อย ใครจ่ายน้อย ครั้งหลังนิมนต์ก็จะไม่ไป

509416027_1033774372292849_5247315702193375472_n-768x1024 จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

จุดจบของไอ้เสือเพิยหรือหลวงตาสุจส์

นายเพิย  บำเพ็ญครบ ในวัยหนุ่มขณะนั้น เป็นคนค่อนข้างนักเลงไม่กลัวใคร อาจเรียกได้ว่า เป็นเจ้าถิ่น ในด้านชาญนักเลงบ้านนอกพอสมควรจนได้ฉายาว่า  ไอ้เสือเพิย ..ไอ้เสือเพิย จะไปทำอะไรไว้บ้างในทางที่ไม่ดี ไม่ขอนำมาเขียนไว้ ณ ที่นี้ ทว่า อดีตของเขาไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้น คงไม่ได้รับฉายา ไอ้เสือเพิย  แล้วต่อมา ไอ้เสือคนนี้ก็กลับตัวกลับใจมาบวชเรียนจนเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ดังกล่าว ได้รับสมญาใหม่ว่า หลวงตาซุจส์ ในที่สุด

​ด้วยจากหนหลังที่คั่งแค้นแน่นอกฝังใจ ยากที่จะสลัดหลุดออกไปได้ถ้าไม่ได้โต้ตอบกลับไปยังคนสุรินทร์ ขณะที่เดินทางข้ามแดนไปอยู่กัมพูชา และ เมื่อเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างทหารและชายแดนในเรื่องของพื้นที่ รวมทั้งปราสาทตาเมือนธม หลวงตาซุจส์ ซึ่งอยู่ระหว่างไม่พอใจ และ เพื่อเป็นการเอาใจฝ่ายกัมพูชา ที่ตนเองกำลังเป็นที่นิยมของชาวบ้านเขมรอยู่ด้วย จึง อยากแสดงพลังออกมาคล้ายเอาใจหรือประจบประแจงบ้านที่ให้อาศัย ออกมาได้ทีได้โอกาส ประกาศลั่น ด่าทอ ให้ชาวเขมรรับรู้ว่า ปราสาทตาเมือนธมเป็นของเขมร และ อยากให้ทหารเขมรยิงคนสุรินทร์ให้ตายไปเสียทั้งหมด นั่นคือปฐมเหตุของเรื่องนี้ และ เป็นปฐมกาลแห่งจุดจบของหลวงตาซุจส์ ที่อาจมิได้กลับไปเหยียบแผ่นดินสุรินทร์อีกก็เป็นได้ เพราะ ประชาชนชาวสุรินทร์ที่ไม่พอใจมีอยู่จำนวนมาก และ พร้อมที่จะจองกฐินไว้หลายกองทีเดียว นี่คือจุดจบของ พระนักเทศน์ ที่เพียรพยายามที่จะเอาใจ ฮุนเซ็น ผู้ ที่ให้ที่พักพิง ให้โอกาส และให้สัญชาติ – พลาสปอร์ต และ เป็นตัวแทนของกัมพูชา ถึงขนาดที่ว่า หลวงตานรินทร ออกมาประกาศ ยอมตายเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินเขมรเลยทีเดียว

508859605_1134674745360125_1903201037398940771_n-1024x576 จากไอ้เสือเพิยถึงหลวงตาซุจส์

และสิ่งสุดท้าย นักวิเคราะห์จึงกล่าวว่า คนอย่างฮุนเซ็น คงไม่ยอมให้ซุจส์ หรือไอ้เสือเพิย หนีกลับมาเมืองไทยได้โดยง่าย ในเมื่อเขาขายประเทศไทยให้เขมรได้ ทำไมจะกลับมาขายเขมรให้คนไทยไม่ได้ และ เรื่องอะไร จะยอมให้ พระนักเทศน์นรินทร ปสันโน กลับไปเมืองไทยในสถานการณ์นี้ เอาไว้ใช้งานที่ยังมีประโยชน์มากกว่ามิใช่หรือ.. และ หากวันใดที่หมดประโยชน์แล้ว คิดหรือว่า คนอย่างพระนรินทร จะได้กลับมาเมืองไทยได้โดยง่าย ..

​คนอย่างฮุนเซ็นไม่ปล่อยมือแน่..นี่คือจุดจบของ หลวงตาซุจส์ หรือไอ้เสือเพิยโดยแท้... 

Share this content:

เกี่ยวกับผู้เขียน

You May Have Missed