สุรินทร์-ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผช.รมว.กระทรวงต่างประเทศ นำคณะผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรป หรือ EU Delegation จำนวน 7 ราย ลงพื้นที่ รพ.พนมดงรักและบ้านเรือนชาวบ้าน ที่ถูกจรวด BM 21 ทหารกัมพูชายิงใส่
จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ส.ค.68 เวลา 13.30 น.ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศ นำคณะผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรป หรือ EU Delegation จำนวน 7 ราย ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
โดยมีคณะ จนท.จากกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ประกอบด้วย นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ,นางสาวสมฤดี พู่พรอเนก รองอธิบดีกรมยุโรป ,นายชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ,นางสาวพนาลี ชูศรี นักการทูตชำนาญการพิเศษ สำนักงานรัฐมนตรี ,นางสาวสลักจิต นาคด้วง นักการทูตชำนาญการ (ที่ปรึกษา) กรมยุโรป ,นายมานากรณ์ เมฆประยูรทอง นักการทูตชำนาญการ (ที่ปรึกษา) กรมยุโรป ,นางสาววิชญาภรณ์ ขุนดี นักการทูตปฏิบัติการ คณะทำงาน (Task Force) ระดับกระทรวงเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ,นางสาวอารียา คุณวราดิศัย นักการทูตปฏิบัติการ กรมสารนิเทศ และนายโยธิน บุญหล้า เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาชำนาญงาน กรมสารนิเทศ
โดยจุดแรก ผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรป ลงพื้นที่ไปยัง โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.พนมดงรักฯเพื่อรับฟังการบรรยายสรุป พร้อมสำรวจบริเวณและโครงสร้างที่ได้รับความเสียหาย จากจรวด BM 21 ของทหารกัมพูชายิงใส่เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่ผ่านมา
โดยโรงพยาบาลพนมดงรักฯยังคงมีการเปิดให้บริการ รับผู้ป่วยนอกปกติ ส่วนผู้ป่วยหนัก ไม่สามารถนอนพักที่โรงพยาบาลได้ ต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งอื่น
ก่อนที่คณะจะได้เดินทางไปสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบบริเวณใกล้เคียง พร้อมพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ โดยลงพื้นที่ไปยังบ้านเรือนของประชาชนที่พังเสียหายจำนวน 5 หลัง โดยเฉพาะหลังของนางมาลัย จงใจงาม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 ม.11 บ้านเกษตรสมบูรณ์ ต.ตาเมียง อ.พนมดังรักฯที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด ถูกหัวระเบิดจรวด BM 21 ตกใส่กลางบ้าน เมื่อวันที่ 24 ส.ค.68 ซึ่งยังคงพบร่องรอยบ้านพังเสียหาย รวมทั้งเศษซากของจรวด BM 21 ที่ตกอยู่ให้เห็นและไว้ดูต่างหน้า ถึงเหตุการณ์ของการกระทำที่โหดร้ายของผู้นำกัมพูชาและทหารกัมพูชา ที่ยิงใส่บ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ จนทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายที่ผ่านมา
ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้พาคณะฑูตมาดูสถานการณ์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งมีหลายหน่วยงาน รวมทั้งกองทัพได้บรรยายและชี้แจงให้ทราบข้อมูลสถานการณ์ชายแดนว่าเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้ง ผอ.รพงพนมดงรัก ที่ชี้แจงความเสียหายว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งต้องอพยพผู้ป่วยไปไหนอย่างไร จำนวนเท่าไหร่ ปัจจุบันเริ่มรับคนมารักษาบ้างแล้ว ซึ่งคณะทูตได้ถามว่า ทุ่นระเบิดอยู่บริเวณแนวไหนที่ไหน ทุ่นระเบิดระหว่างไทยกับพูชาห่างกันเท่าไหร่เราจะกู้ได้อย่างไร ทางกองทัพก็อธิบาย ว่ายังขาดอุปกรณ์บางอย่าง ในการตรวจสอบ ทั้งชุดเกราะต่างๆ และทูตต่างเห้นภาพและเข้าใจขึ้นเยอะ ซึ่งท่านก้จะกลับไปคุยกับกรรมการของท่านว่า จะเข้ามาช่วยเหลือเราในด้านไหนบ้าง ซึ่งท่านได้ซักถามมากมายและจะรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไปพูดคุยกับคณะกรรมการของท่านก่อน โดยภาพรวมแล้วท่านให้ความสนใจตั้งคำถามและได้รับการตอบคำถามจำนวนมาก ท่านที่ปรึกษาก็ได้ลงมาในพื้นที่หลายครั้ง รวมทั้งท่านอธิบดี ซึ่งเราก็คาดหวังว่า งานนี้ทางคณะทูต จะนำไปพิจารณาเพื่อเข้ามาช่วยเรา ซึ่งชาว้บานที่ได้รับผลกระทบ ก็เดือดร้อนและได้ไปพักกับพี่สาว ซึ่งรอการช่วยเหลือและสร้างบ้านจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป และได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลด้วย
นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว่า วันนี้ที่มาเป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องในครั้งที่แล้วที่ไปที่ภูมะเขือ ที่ไปดูเรื่องของทุ่นระเบิด เป็นภารกิจทางมนุษยธรรม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เคยกล่าวไว้ว่า ทางประเทศไทย ไม่ว่าจะประเทสไหนจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมเก็บกู้ระเบิดกับเรา ต้องเดินหน้าในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดต่อไป ซึ่งทางตัว EU เองก็ได้มีการช่วยเหลือเงินบริจาคให้กับพลเรือน ไม่ได้ช่วยเฉพาะเรา คือทั้งประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทยด้วย ช่วยทั้งสองฝ่าย เพราะจริงๆแล้วการปะทะใดๆก็ตามก็ไม่สมควรที่จะกระทบกับพลเรือนที่ไหนเลย แต่ละประเทศก็คงต้องคงความเป็นกลาง เขาให้ความสนใจในเรื่องของทุ่นระเบิด ถามข้อมูลตรงนี้หลายคำถาม และก็นานหลายชั่วโมง ลงลึกในรายละเอียด
นางมาลัย จงใจงาม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 ม.11 บ้านเกษตรสมบูรณ์ ต.ตาเมียง อ.พนมดังรักฯ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไม่อยู่ โชคดีที่ลูกสาวให้ไปเที่ยวที่ จ.ชลบุรี ตนทรบาข่าวันที่ 24 ก.ค.ประมาณสิบโมงครึ่ง เพื่อนข้างบ้านโทรไปบอก หลังจากนั้นวันที่ 7 ส.ค.หลังจากหยุดยิงก็กลับมาบ้าน มาเห้นก้ยังทำใจไม่ได้ ตนฝากให้คณะฑูตและคณะช่วยดูแลสร้างบ้านให้เร็วๆเพราะไม่มีที่อยู่ ซึ่งชาวบ้านโดนระเบด 4-5 หลัง ซึ่งยังวิตกกังวลในสถานการณ์และหวาดระแวงอยู่
Share this content:
เกี่ยวกับผู้เขียน
