สลด ผัวเมียเพิ่งซื้อบ้าน นั่งคู่ในรถเก๋ง รมควันตายพร้อมกัน 2 ศพ

Spread the love

เวลา 22.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ร.ต.ท.เอกรัฐ ไชยผล รองสารวัตรสอบสวนเวร สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สุรินทร์ มีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ จอดในรั้วบ้านเลขที่ 238 หมู่ 4 บ้าน ปรือเกียน ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จึงพร้อมด้วยสายตรวจรถยนต์ ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ แพทย์หญิงศุทธินี ทัตติยกุล แพทย์นิติเวช รพ.สุรินทร์ หน่วยกูภัยสุรินทร์ ไปตรวจสอบตามที่รับแจ้ง



พบบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว สภาพใหม่ ปลูกอยู่ในชุมชนของหมู่บ้าน มีรั้วสูงประมาณ 150 เซนติเมตร ในโรงจอดรถติดประตูเข้าบ้าน พบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 กถ 2090 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่ เจ้าหน้าที่มองผ่านกระจกรถเห็นชายหญิงนั่งคู่อยู่เบาะหน้ารถยนต์ ในสภาพหมดสติ เคาะรถเรียกไม่มีการตอบจึงใช้ไม้ทุบกระจกด้านคนขับ ล้วงมือเปิดประตู แต่พบว่าทั้งคู่ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นสามีภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว

ทราบชื่อ จ.อ.กฤษณะ มีด้วยดี อายุ 41 ปี เป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นั่งเบาะคนขับ ส่วนเบาะหน้าข้างคนขับคือ น.ส.อินทิรา มีด้วยดี อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยา พนักงานขายเครื่องสำอาง ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขา สุรินทร์ เสียชีวิตข้างสามี สภาพร่างกายไม่พบร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด ส่วนที่เบาะหลังพบหม้ออะลูมิเนียม ที่ใช้สำหรับประกอบอาหารวางอยู่ มีแผ่นไม้บางๆ กว้างยาว ประมาณ 30 เชนติเมตร วางรองก้นหม้อไว้ไม่ให้สัมผัสเบาะ ในหม้อมีถ่านไฟลุกไหม้ ควันยังลอยกรุ่นในรถยนต์

ทราบจากตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.เมืองสุรินทร์ ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น มีโทรศัพท์เข้ามาที่ศูนย์วิทยุ 191 สุรินทร์ ให้ตำรวจช่วยไปตรวจสอบบ้านหลังนี้ด้วย เกรงว่าจะมีเหตุร้าย เจ้าหน้าที่จึงมาตรวจดดู ทั้งคู่ได้ออกมาพบกับตำรวจ ฝ่ายชายบอกว่า ไม่มีเหตุอะไร เป็นการเข้าใจผิดของผู้โทรแจ้งที่เป็นญาติ เข้าใจผิดไปเอง เจ้าหน้าที่จึงกลับไป จนรับแจ้งอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 มาถึงพบว่าเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 ซื้อบ้านหลังนี้ที่สร้างเสร็จแล้วได้เพียงเดือนเดียว และทำพิธีขึ้นบ้านใหม่เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ตอนเช้าทั้งคู่จะออกไปทำงาน ค่ำกลับบ้าน จึงไม่คุ้นเคยกับเพื่อนบ้าน ต่อมาญาติเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้เดินทางมาดูศพ ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆ ว่า ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้หญิง เรียนชั้นประถม แต่ไม่ได้มาอยู่ด้วย อยู่กับปู่ย่าที่ อ.จอมพระ ส่วนสาเหตุการตัดสินใจก่อเหตุครั้งนี้ ไม่ทราบ เนื่องจากต่างคนต่างมีครอบครัว และไม่ได้เล่าปัญหาให้ฟัง เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป