สุดทรมาน หนุ่มป่วย”หนังเน่า” รับจ้างฉีดยาฆ่าหญ้า ซึมซาบสารเคมี

Spread the love

หนุ่มใหญ่ชาวพิษณุโลก เมีย 1 ลูก 3 กลายเป็นผู้ป่วยอาการหนัก นอนติดเตียง จาก “โรคหนังเน่า” หลังออกรับจ้าง “ฉีดยาฆ่าหญ้า” หากินเลี้ยงครอบครัว เป็นตุ่มพองแล้วแตกเป็นแผลทั่วตัว สุดแสนทรมาน 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลวังทอง จ.พิษณุโลก หลังมีข่าวเผยแพร่ในโลกโซเชียล ว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคผิวหนัง ฐานะครอบครัวยากจน กำลังได้รับความทรมานจากโรคที่เป็นอยู่

พบผู้ป่วยดังกล่าวคือ นายวิโรจน์ นุชเจ็ก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 733 หมู่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยมีภรรยา ชื่อ นางจันทร์จิรา หลำชาวนา อายุ 52 ปี นายจรูญ นุชเจ็ก อายุ 30 ปี บุตรชายคนโต ด.ญ.พรนภา นุชเจ็ก หรือน้องเพลง เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแก่งสฤษดิ์เสนาอุปถัมภ์ บุตรสาวคนเล็ก และ น.ส.สมคิด นุชเจ็ก อายุ 40 ปี น้องสาวของนายวิโรจน์ เฝ้าดูแลอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วยที่แยกออกต่างหากจากผู้ป่วยทั่วไป

นางจันทร์จิรา หลำชาวนา อายุ 52 ปี เปิดเผยว่า สามีกับตนมีบุตรด้วยกัน 3 คน คือนายวิโรจน์ ที่มาเฝ้าดูอาการสามีด้วย นายณัฐพล นุชเจ็ก อายุ 23 ปี ทำงานรับจ้างก่อสร้างและตัดอ้อยอยู่ต่างจังหวัด และ ด.ญ.พรนภา หรือน้องเพลง ปกติประกอบอาชีพทำไร่ข้าวโพดพอว่างงานก็หางานรับจ้างทั่วไปทำกัน ที่บ้านอาศัยกันอยู่เพียงสามีกับตนและน้องเพลงเท่านั้น ส่วนนายวิโรจน์ มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างแยกออกไปอยู่กับครอบครัวและมีบุตรชายที่ต้องรับผิดชอบ 1 คน นายณัฐพลก็มีครอบครัวแล้วเช่นกัน ช่วงที่ทำไร่ข้าวโพดได้กู้เงินมาจากสหกรณ์การเกษตร อ.วังทอง จำนวนหนึ่งเพื่อลงทุน แต่ประสบภัยแล้งจนไม่มีเงินใช้หนี้ ปัจจุบันเป็นมีหนี้เงินกู้สะสมอยู่กว่า 1 แสนบาทแล้ว ต้องหายืมเงินจากญาติและแบ่งปันจากรายได้ของลูกชายทั้งสองคน ซึ่งก็ไม่ค่อยมีกันอยู่แล้ว ส่งดอกเบี้ยสหกรณ์เดือนละ 4 พันกว่าบาท

ก่อนที่นายวิโรจน์สามีตนจะป่วยเป็นโรคทางผิวหนัง หรือทางการแพทย์เรียกกันว่าโรคเม็ดเลือดขาวกินเม็ดเลือดแดง หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าโรคหนังเน่านั้น ได้เกิดแพ้สารเคมีขณะไปทำงานรับจ้างฉีดยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลงในสวนลำไย สวนเงาะ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีตุ่มพองแล้วแตกกลายเป็นแผล แรกๆ ก็หายและแห้งไป แต่ต่อมาเริ่มเป็นมากขึ้นไปทั่วตัว จนไม่สามารถทำงานได้ การรักษาจะไปรับยาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลพุทธชินราชมารับกิน หากช่วงใดกินข้าวไม่ได้ถ้าเป็นตุ่มพองแล้วแตกที่บริเวณปาก ก็จะให้น้ำเกลือแทนแต่ก็ให้มากไม่ได้เพราะทำให้ผิวหนังเปื่อยเน่าง่าย ทำให้สามีทุกข์ทรมานมาก บ่นเจ็บปวด แสบและคันตามแผล ล่าสุดอาการหนักขึ้นจนเป็นแผลไปทั้งตัวจึงเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลวังทองเมื่อวานนี้ เพราะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งแพทย์จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) เพราะมีแพทย์เฉพาะทาง

เนื่องจากสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนหารายได้มาใช้จ่ายในแต่ละวันและใช้หนี้เงินกู้สหกรณ์ พอมาป่วยอย่างนี้ ซึ่งตนต้องเฝ้าดูแลสามีทุกวัน เนื่องจากน้องเพลงไปเรียนหนังสือ ได้อาศัยเพียงวันเสาร์ อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้วันละ 250–300 บาท แล้วแต่นายจ้างจะจ่ายให้ เพราะวันหยุดน้องเพลงสามารถดูแลพ่อได้ดีเช่นเดียวกับที่ตนคอยดูแล

นางจันทร์จิรา กล่าวอีกว่า เบื้องต้น ทางนายอำเภอวังทอง ทราบข่าว ได้มาเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ ถ้าเป็นไปได้ตนอยากได้แพทย์ที่ชำนาญทางด้านโรคที่สามีเป็นอยู่มาช่วยรักษาให้ด้วย ที่เป็นห่วงก็คือการศึกษาของน้องเพลง ที่ตนและสามีหวังไว้ว่าจะส่งเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะลูกชายทั้งสองคนก็เรียนจบแค่ ป.4 เขียนหนังสืออ่านหนังสือก็ยังไม่ออก รายได้จากการรับจ้างก็มีไม่เพียงพอที่จะมาจุนเจือ จึงอยากวอนผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเราด้วยในเรื่องทุนการศึกษาของน้องเพลง และค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าก๊อซปิดแผลที่ต้องใช้มากเป็นพิเศษ หากเป็นไปก็อยากทำห้องแอร์ให้กับสามีเพราะทุกวันนี้เมื่ออากาศร้อน สามีจะทุกข์ทรมานมาก

สำหรับผู้ประสงค์ช่วยเหลือสามารถบริจาคเงินทำบุญได้ทางบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาโคกมะตูม ชื่อบัญชี นายวิโรจน์ นุชเจ๊ก เลขที่บัญชี 0548459966 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 064-3451735

ที่มา : ไทยรัฐ