ควาญช้างที่ จ.สุรินทร์ ก่อเหตุสลด บอกลูกชายให้ดูแลเลี้ยงช้างแทนพ่อให้ดี จากนั้นก็เดินไปบนบ้าน ใช้ปืนยิงภรรยาดับ ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองฆ่าตัวตายตาม ญาติเผยปมสังหารมาจากความหึงหวง
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2562 ร.ต.อ.ธัชพล งามนิธิธนสุนทร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีคนยิงกันเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ในบ้านพักคนเลี้ยงช้าง ที่ป่าสงวนแห่งชาติดงภูดิน บ้านภูดิน ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซึ่งอยู่ด้านหลังของศูนย์คชศึกษา ประมาณ 2 กม.หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.สภ.กระโพ, พ.ต.ท.แสงอรุณ ศรีโสม รอง ผกก.(สส), พ.ต.ท.ปุญญเดช ทองอินทร์ สว.สส., แพทย์เวร รพ.ท่าตูม และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิจิ๊บเต็กเซี่ยงตึ๊ง จุดท่าตูม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจาก ภ.จว.สุรินทร์
ที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านไม้สองชั้นยกสูงใต้ถุนโล่ง หมายเลขบ้าน สสร.ส.7-17/2558 ซึ่งเป็นบ้านที่ทางราชการสร้างให้ รายรอบด้วยป่าอ้อยสำหรับเป็นอาหารของช้าง บนพื้นบ้านชั้นบนพบศพ นางลัดดา จงใจงาม อายุ 40 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 บ้านโนนตาล้าน ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าผาก 2 นัด นอกจากนั้นข้างกันยังพบร่างของ นายแสน จงใจงาม อายุ 41 ปี สามีของนางลัดดา นอนหายใจรวยริน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด และพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ข้างลำตัวด้านซ้าย มีกระสุนอยู่ในลูกโม่ 6 นัด ใช้ยิงไปแล้ว 3 นัด จึงรีบนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ท่าตูม แล้วส่งต่อ โรงพยาบาลสุรินทร์ แต่นายแสนอาการสาหัสมาก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าสองสามีภรรยา ได้พาครอบครัวมาพักอาศัยในบ้านที่ทางราชการสร้างให้ตามโครงการนำช้างเร่ร่อนกลับบ้าน เพื่อเลี้ยงช้างจำนวน 4 เชือก และนำช้างไปแสดงในศูนย์คชศึกษาให้นักท่องเที่ยวได้ดู เพื่อเป็นรายได้ในครอบครัว
นายคนดี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บุตรชายที่อยู่กับพ่อแม่ตอนเกิดเหตุ ได้กล่าวว่า พ่อกับแม่มีลูก 3 คน ตนเองเป็นคนที่ 2 ส่วนพี่และน้องพากันไปอาศัยอยู่กับตายาย แต่ตนเองชอบเลี้ยงช้างก็เลยมาอยู่กับพ่อเพื่อช่วยเลี้ยงช้าง ตอนเกิดเหตุขณะที่ตนเองกำลังเอาอาหารให้ช้างอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากบนบ้าน 2 นัด พอตนเองวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อไปดูเหตุการณ์ ก็เห็นพ่อตะโกนบอกกับตนเองว่าให้ดูแลช้างทั้ง 4 เชือกให้ดีนะพ่อจะไม่อยู่แล้ว จากนั้นพ่อก็ยิงตัวเอง 1 นัด ตนเองทำอะไรไม่ถูกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ไปแจ้งกับนางนัฐสุดา จงใจงาม ซึ่งป็นญาติ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าตำรวจทราบ
ด้านนายสมัย สร้อยแสง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 10 บ้านโนนตาล้าน ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พ่อของนางลัดดา กล่าวว่า ครอบครัวของลูกสาวและลูกเขยถือว่าเป็นครอบครัวที่มีความเป็นอยู่ที่ดีพอสมควร เพราะในครอบครัวมีช้างอยู่ 4 เชือก เลี้ยงไว้หารายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ที่ผ่านมาตนเองสังเกตเห็นบ่อยครั้งว่า ลูกเขยจะมีอาการหึงหวงภรรยา คือ เวลาที่ญาติหรือใครก็ตามที่เป็นผู้ชายมาพูดคุยด้วยกับภรรยา ก็จะมีอาการไม่พอใจ เวลาคนที่มาพูดคุยด้วยกลับไปก็จะเรียกภรรยามาต่อว่าอยู่เสมอ จนภรรยาไม่กล้าออกนอกบ้าน หรือแม้แต่แต่งตัวเหมือนผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ทำ แต่ละวันภรรยาไม่ได้ไปไหนมีแต่ไปหาเกี่ยวหญ้าและหาอาหารมาเลี้ยงช้าง และไม่คิดว่าวันนี้ลูกเขยจะมาคิดสั้นและหาทางออกแบบนี้ ส่วนศพของทั้งคู่ตนจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป.