กรมฝนหลวงฯ ปรับแผนตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุบลราชธานี เพิ่มการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรภาคอีสาน หลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และตาก พื้นที่ภาคกลาง จ.ลพบุรี และราชบุรี พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น และนครราชสีมา โดยตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป กรมฝนหลวงฯ จะปรับแผนการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มเติมขึ้นที่ จ.อุบลราชธานี และในวันที่ 22 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป จะตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มอีก 1 หน่วย ที่ จ.สุรินทร์ รวมมีจำนวนหน่วยปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 หน่วยฯ
เนื่องจากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่กว้างขวางและเป็นพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ซึ่งอาจเกิดกรณีฝนทิ้งช่วงที่จะส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ขาดแคลนน้ำเพื่อการทำการเกษตร และการอุปโภคบริโภคของประชาชนได้ กรมฝนหลวงฯ จึงปรับแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องเกษตรกร และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรไม่ให้ได้รับความเสียหาย โดยทั้ง 3 หน่วยปฏิบัติการฯ ที่ประจำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันนี้พร้อมปฏิบัติการทันที เมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออก ยังคงตั้งหน่วยปฏิบัติการฯ ที่ จ.สระแก้ว และพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงเวลานี้ มีกระแสความเร็วลมค่อนข้างแรง ทำให้โอกาสที่จะปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนเป็นไปได้น้อยลง ประกอบกับโอกาสที่จะเกิดฝนด้วยธรรมชาติมีเพิ่มมากขึ้น กรมฝนหลวงฯ จึงเตรียมปรับแผนย้ายหน่วยปฏิบัติการฯหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปประจำการที่ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป แต่ยังคงหน่วยปฏิบัติการฯ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะเร่งปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ในทุกพื้นที่ทันที เมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทั้งนี้ สามารถแจ้งการขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในทุกภูมิภาคของประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์/เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร